ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทำให้มนุษย์อยู่บนโลกใบนี้ได้ยาวนานมากขึ้น บวกกับจำนวนเด็กแรกเกิดและการเสียชีวิตที่น้อยลง ทำให้สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เราจึงมีตัวเลขประชากรผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ คำจำกัดความของผู้สูงอายุในแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกัน ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรป ผู้สูงอายุหมายถึง ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป สำหรับประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติ ผู้สูงอายุหมายถึงบุคคลผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ซึ่งตรงกับองค์กรอนามัยโลก (WHO)
สำหรับบทความฉบับนี้ Digital Connect จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยีแต่ละแบบที่ถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้สูงอายุ
1. เทคโนโลยี Sensor
Sensor เป็นเทคโลยีเปลี่ยนโลก และเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนยุคปัจจุบัน มากกว่านั้น sensor ถูกนำมาใช้ในแง่การ monitor ผู้สูงอายุขณะที่พวกเราไม่ได้อยู่กับท่าน ปัจจุบันมี Application เช่น Livelyhome, Philips CareSensus, Silver Mother Sensor และอีกหลายแบรนด์ที่มีอุปกรณ์ขนาดเล็กสำหรับติดภายในบ้าน และติดสิ่งของ เช่น ประตู ตู้เย็น กล่องยา ขวดยา เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวในสิ่งของที่ผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ บาง app ถึงขนาดมีระบบแจ้งเตือน เช่นหาก sensor นี้ถูกนำไปติดที่กล่องยา และถ้าผู้สูงอายุไม่ได้จับกล่องยาในเวลาที่กำหนด sensor จะส่งสัญญาณเตือนเข้า app เพื่อให้ผู้สูงอายุทานยา นอกจากนี้บางแบรนด์ยังมีบริการ call center คอยมอนิเตอร์ผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อ call center ตรวจพบข้อมูล sensor ที่ผิดปกติไปจากการใช้ชีวิตประจำวัน call center จะติดต่อไปยังผู้สูงอายุเพื่อแจ้งเตือน และให้คำแนะนำ หรือหากเกิดกรณีฉุกเฉิน จะมีการติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปช่วยเหลือได้ในช่วงเวลาฉุกเฉิน
นอกจากนี้ sensor ยังถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมาในรูปแบบ adhesive device ใช้ในการตรวจวัดชีพจร ยกตัวอย่างเช่น BioStamp สำหรับติดบนร่างกายมีลักษณะคล้ายสติกเกอร์ไร้สายสัญญาณระโยงระยาง BioStamp มีหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย คลื่นหัวใจ และระบบการทำงานของสมอง รวมทั้งส่งผลเหล่านั้นไปสู่ smartphone เพื่อทำการวิเคราะห์ผล ช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลทราบสถานะร่างกายทันที และระบบนี้อาจนำมาพัฒนาเพิ่มเพื่อให้เชื่อมกับฐานข้อมูลของโรงพยาบาล ซึ่งมีระบบคอยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ติดต่อผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
2. เทคโนโลยีด้านการเคลื่อนไหว
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของผู้สูงอายุนั้นคือการเคลื่อนที่ การเดินทาง ปัจจุบันมีเครื่องอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนที่เป็นจำนวนมาก เช่น walker ที่เปรียบเหมือนรถใส่ของในซุปเปอร์มาเก็ต หรือแม้กระทั่งการสร้างอุปกรณ์ช่วยเดินแบบ Honda ที่เมื่อใส่แล้ว ผู้สูงอายุหรือผู้พิการจะเดินได้เหมือนคนปกติ และจะลดปัญหาเรื่องการเดินขึ้นลงบันได หรือขึ้นลงพื้นที่ชัน เหมือนกลับมาเดินได้คล่องอีกครั้ง
ภาพ: Honda Walking Assist Device
และสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินได้แม้แต่น้อย เก้าอี้บังคับสำหรับผู้สูงอายุที่มีฟังก์ชั่นแบบรถเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก ถึงแม้จะเจอบันไดก็ตาม เมื่อนั่งเก้าอี้ตัวนี้ ผู้สูงอายุจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ลิฟท์หรือเก้าอี้ไฟฟ้าเพื่อขึ้นลงภายในบ้าน
ภาพ: Scalevo - The Stairclimbing Wheelchair
ภาพ: Smart tech finds home in senior care
การพัฒนา Application ที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
นอกจากเทคโนโลยีใหม่ ในหัวข้อนี้อยากชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วก็เพียงพอที่จะประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่และกลุ่ม Baby Boomer เช่น บริการ Delivery ที่มีมายาวนาน หากเราเอามาปรับเป็นบริการส่งยาตามบ้าน หรือบริการเรียกรถจากบ้าน โดยทำ User Interface ให้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เราก็จะได้กลุ่มลูกค้าใหม่ที่กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น หลักสำคัญคือ เราต้องทราบถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้สูงอายุ รวมทั้งไลฟ์สไตลของผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสร้างช่องทางการค้าและชิงความได้เปรียบแก่ธุรกิจของบริษัท
เทรนด์ผู้สูงอายุถือเป็น Megatrend สำหรับปัจจุบัน การพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไม่เฉพาะทางกายภาพ แต่รวมถึงด้านจิตใจเข้าไปด้วย และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง การทำธุรกิจที่สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีในการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจไปในตัว
References